7 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2024

โทนเนอร์เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าประเภทหนึ่งที่ใช้หลังจากทำความสะอาดใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางหรือโฟมล้างหน้า และใช้เป็นผลิตภัณฑ์แรกก่อนเริ่มกระบวนการดูแลผิวหน้า เพราะโทนเนอร์มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดผิว ชะล้างสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางที่หลงเหลืออยู่ในรูขุมขน ยังช่วยในการบำรุงผิวในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความชุ่มชื้น ลดสิวหัวดำ รูขุมขนอุดตัน สิวอักเสบ และยังทำให้รูขุมขนกระชับ เป็นต้น

โทนเนอร์ Heartleaf 77% Soothing Toner

หากพูดถึงโทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายก็ต้อง Annua Heartleaf หรือ “พี่จุนโทนเนอร์” ซึ่งมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากดอกคุณนายตื่นสายที่เป็น Anti-Aging สารสกัดต่างๆ จากดอกคาโมมายล์ สารสกัดใบบัวบก สารสกัดรากหญ้าเจ้าชู้ และสารสกัดจากองุ่น มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบ สารสกัดแอปเปิ้ล และสารสกัด Heartleaf มากกว่า 77%ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน ซิลิโคน สามารถใช้เป็นมาส์กสำหรับกิจวัตรกลางคืนได้ สามารถใช้ได้ทุกเช้าและก่อนนอน เนื้อสัมผัสใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับทุกสภาพผิว บางเบา ซึมซาบเร็ว สามารถทาสกินแคร์ได้ทันที ไม่ต้องรอ

โทนเนอร์ Madagascar Centella Toning

โทนเนอร์จาก SKIN1004 เป็นสูตรที่มีส่วนผสมในการขัดผิวอย่าง PHA แต่ข้อดีของกรดประเภทนี้คือ มีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่ากรด AHA และ BHA จึงทำความสะอาดได้เฉพาะผิวบริเวณนอกสุดเท่านั้น ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองน้อยลง ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมากกว่า พร้อมด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว เปิดรูขุมขนให้พร้อมรับการบำรุงนอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเลือกที่จะเพิ่มสารสกัด Centella asiatica และสารสกัดชะเอมเทศเพื่อปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ รวมถึง Niacinamide หรือวิตามินบี 3 เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และเป็นสูตรปราศจาก Essential Oil ทำให้สามารถใช้ได้ต่อเนื่องทุกวัน

โทนเนอร์ 1025 Dokdo

โทนเนอร์จาก Round Lab เป็นโทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมพอๆ กับแบรนด์อื่นๆ เพราะคอนเซ็ปหลักของแบรนด์คือการพยายามใช้เฉพาะส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ส่วนผสมหลักในโทนเนอร์นี้เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ถึง 5 ชนิด ช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน และ Pro-Vitamin B5นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากชั้นผิวชั้นนอก ขณะเดียวกันก็มีสารสกัดจากอ้อยที่มีคุณสมบัติคล้าย AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่อย่ากลัวการระคายเคือง เพราะทางแบรนด์ใส่ในปริมาณน้อย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองมากเท่ากับสูตร AHA โดยเฉพาะ

โทนเนอร์ Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel

โทนเนอร์ขวดนี้จาก THAYERS เป็นสูตรที่เหมาะกับคนผิวมัน ผิวผสม หรือผู้ที่มีปัญหาสิว ประกอบด้วยสารสกัดจาก Witch Hazel ซึ่งจัดเป็น Calm Essentiel และ Antioxidants ช่วยควบคุมความมัน ช่วยลดการเกิดสิวอักเสบและรูขุมขนอุดตัน สรรพคุณช่วยปลอบประโลม ฟื้นฟู และบำรุงผิวจากการระคายเคือง ลดการอักเสบพร้อมกลีเซอรีนกักเก็บน้ำให้ผิวมีสารสกัดจากดอกกุหลาบที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ช่วยบำรุงและทำให้ผิวนุ่ม ป้องกันผิวแห้งกร้าน ปราศจากพาราเบนและซิลิโคน จะเช็ดด้วยสำลีหรือมาส์กทิ้งไว้ 10 – 15 นาที เพื่อบำรุงผิวก่อนทาเซรั่มก็ได้เช่นกัน

โทนเนอร์ Hyaluron pH Balancing

อีกหนึ่งโทนเนอร์จากแบรนด์ญี่ปุ่นที่มี SOS Hyaluron pH Balancing ขวดนี้มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Portulaca Oleracea หรือที่เรียกกันว่าดอกคุณนายตื่นสาย ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Antioxidants และ Anti-Aging ซึ่งสามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีได้ ช่วยลดการอักเสบ รอยแดง และช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจาก ALGAE หรือสาหร่ายที่ช่วยดูดซับสารพิษและสิ่งสกปรกที่ตกค้างอีกทั้งยังมีเบต้ากลูแคนที่ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวอย่างเหมาะสม พร้อมรับการบำรุงรักษาในขั้นตอนต่อไป ส่วนเนื้อค่อนข้างบางเบา ซึมเร็ว และไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นของเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไร้แอลกอฮอล์ ไร้น้ำมัน และไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการอุดตัน

โทนเนอร์ Glow Tonic

Glow Tonic จากแบรนด์ Pixi เป็นโทนเนอร์ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว เนื่องจากส่วนผสมหลักคือ Glycolic Acid (AHA) จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น มีส่วนผสมของ Pro-Vitamin B5 เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบ ภูมิแพ้ หรืออาการคันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากเกาลัด และสารสกัดจาก Witch-Hazel ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนพร้อมบรรเทาและป้องกันการระคายเคืองจาก AHA ด้วยสารสกัดว่านหางจระเข้ สารสกัดโสมเกาหลี นอกจากนี้ยังมี Aspartic Acid ที่ช่วยปรับสมดุล pH ของผิว และเตรียมพร้อมสำหรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป แต่แนะนำให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะ AHA อาจทำให้ผิวไวต่อแสง

โทนเนอร์ Green Tea Seed Skin

innisfree เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังจากเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในเรื่องส่วนผสมอันโด่งดังอย่าง Green Tea Water 2.0™ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของแบรนด์นี้เท่านั้น ผ่านการควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงกระบวนการกลั่นที่พิถีพิถัน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด ลดการอักเสบและลดการก่อตัวของแบคทีเรียได้ในระดับหนึ่งที่สำคัญยังมีส่วนผสมในกลุ่ม Moisturizer ที่ช่วยกักเก็บน้ำเพื่อป้องกันความแห้งกร้านของผิวอีกด้วย เป็นสูตรที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งเพราะไม่มีแอลกอฮอล์ไม่มี Essential Oil และใช้สารกันบูดที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากชาเขียว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย